สังเขปประวัติพระภิกษุสงฆ์

ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล

ครูบาเทือง นาถสีโล (พระครูไพศาลพัฒนโกวิท) เจ้าอาวาส วัดบ้านเด่น (วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อายุ ๔๔ ปี พรรษา ๒๔ แม้ว่าทั้งอายุและพรรษาไม่มาก แต่ท่านมีปฏิปทา น่ากราบไหว้ สงบเสงี่ยม หากจะประมวลภาพรวมความเป็น ครูบาของท่าน จะได้ดังนี้

ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล

ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล
ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล

พระครูไพศาลพัฒนโกวิท

สถิต ณ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นามเดิม ครูบาเจ้าเทือง หน่อเรือง ฉายา นาถสีโล เกิด ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ ปีมะโรง (ปีสี)

“ครูบาอ่อนน้อมถ่อมตน-ฝึกฝนปฏิบัติ-เคร่งครัดพระธรรมวินัย-จิตใจสุขุมเยือกเย็น-บำเพ็ญบารมี-ทำความดีเป็นนิจ-จิตเมตตาเสมอ”

ตั้งแต่บวชเป็นสามเณรจนกระทั่งบวชเป็นพระครูบาเทือง ได้บำเพ็ญบุญบารมี ตามรอยแห่งครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาทุกประการ ถ้าพูดถึงทานการบริจาค ครูบาสามารถสร้างศาสนสถาน ถาวรวัตถุ ไม่แต่เฉพาะใน จ.เชียงใหม่ เท่านั้น ทุกจังหวัดในภาคเหนือครูบา ได้ประดิษฐานพระพุทธ ศาสนาอย่างทั่วถึงและมั่นคง ท่านสร้างทั้งโบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระพุทธปฏิมา ศาลากุฏิสงฆ์ ฯลฯ

ในด้านการปฏิบัติ ครูบานับเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่เข้าถึงธรรม และมีข้อวัตรอย่างเคร่งครัด โดยยึดข้อปฏิบัติตามสมัยโบราณ ตามครูบาอาจารย์ที่สืบๆ กันตาม โดยวิธีปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเคร่งครัด โดยเฉพาะวิปัสสนากรรมฐาน ในด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ครูบาเสียสละปัจจัยไทยธรรมที่มีผู้ถวาย บริจาคช่วยเหลือแก่ส่วนราชการ องค์กร ชมรม สโมสร ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวไทยภูเขา ตั้งแต่ข้าว ผ้า ยา บ้าน การศึกษา น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนหนทาง มากมายมหาศาล

“เป็นพระต้องพูดจริง ต้องทำจริง และต้องรู้จริง”

เป็นคติธรรม ที่ครูบาเทืองยึดปฏิบัติเรื่อยมาผลจาก ความจริงที่ท่านบำเพ็ญ เพียรภาวนา ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช เทศนา พัฒนาชุมชนบน พื้นฐานของข้อ วัตรปฏิบัติที่ปราศจากการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีบีทา ครูบารักษาศีล ไม่เห็นแก่กิน ไม่เห็นแก่นอน ฝึก สอนใจตนเอง ตลอดเวลา รวมทั้งการเสียสละสร้างศรัทธา นำพาถูกต้องปรอง ดองให้เห็น ดีเด่นใน คุณธรรม

ที่มา หนังสือประวัติครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน

แสดงความคิดเห็น
เว็บไซต์พุทธะ
คำว่า “พุทธะ” นอกจากจะหมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังหมายถึง การเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน โดยการปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย

แสดงความเห็น