ตรัสรู้

อุปติสสะ พบ พระอัสสชิเถระ

หลังจากเรียนรู้ลัทธิของสัญชัยปริพาชกจนจบสิ้นแล้ว มีความรู้สึกว่ายังไม่พบทางหลุดพ้นอันเป็นสิ่งที่ตนแสวงหาอยู่ ทั้งสองจึงตกลงนัดหมายกันว่า ถ้าผู้ใดพบธรรมอันเป็นทางหลุดพ้นจากทุกข์ก่อนให้บอกอีกฝ่ายหนึ่งด้วย อยู่มาวันหนึ่งอุปติสสะ ได้พบพระอัสสชิเถระหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์เข้ามาบิณฑบาตภายในเมืองราชคฤห์ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในจริยวัตรอันสงบเสงี่ยมจึงถามถึงผู้เป็นศาสดาและขอให้แสดงธรรมโปรด พระอัสสชิออกตัวว่าเป็นผู้บวชใหม่ขอแสดงธรรมแต่เพียงย่อว่า

“ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้นและความดับแห่งธรรมเหล่านั้น”

เมื่อได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ อุปติสสะพลันได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระโสดาปัตติผล ครั้นทราบว่าบัดนี้พระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร จึงรีบกลับมาแสดงธรรมดังกล่าวแก่ผู้เป็นสหาย ยังผลให้โกลิตตะได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระโสดาปัตติผลเช่นกัน ทั้งสองจึงเข้าไปชักชวนสัญชัยปริพาชกผู้เป็นอาจารย์ให้ไปสู่สำนักพระศาสดา แต่สัญชัยปริพาชกปฏิเสธและพยายามชักชวนให้ทั้งสองอยู่ช่วยสั่งสอนศิษย์ในสำนักของตน ครั้นเห็นว่าไม่สำเร็จจึงย้อนถามว่า “ในโลกนี้คนฉลาดมาก หรือคนโง่มาก” ได้รับคำตอบว่าคนโง่มากกว่าคนฉลาด สัญชัยปริพาชกจึงกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น คนฉลาดจงไปยังสำนักพระโคดมเถิด คนโง่จงมายังสำนักของเรา” ดังนั้นโกลิตตะและอุปติสสะจึงพาบริวารจำนวน ๒๕๐ คนไปสู่สำนักพระศาสดา ส่วนบริวารอีก ๒๕๐ คนนั้นยังอยู่สำนักสัญชัยปริพาชกตามเดิม

แสดงความคิดเห็น
เว็บไซต์พุทธะ
คำว่า “พุทธะ” นอกจากจะหมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังหมายถึง การเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน โดยการปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย

แสดงความเห็น