เมื่อพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเดินจงกรมครบ ๗ วันแล้ว ในสัปดาห์ที่ ๔ ได้เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้ว ซึ่งเทวดานิรมิตขึ้นมาถวาย ทรงพิจารณาพระปริยัติธรรม พระไตรปิฎก ณ เรือนแก้วนั้นตลอดระยะเวลา ๗ วัน สถานที่นั้นอันตั้งอยู่ ณ ทิศพายัพ หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แห่งต้นพระศรีมหาโพธิ จึงได้นิมิตมหามงคลนามว่า รัตนฆรเจดีย์
อนึ่ง ในหนังสือพระปฐมสมโพธิกถา กล่าวว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ต้นพระศรีมหาโพธิพฤกษ์ ในสัปดาห์ที่ ๑ ประทับยืนถวายพระเนตร ณ อนิมิสเจดียสถาน ในสัปดาห์ที่ ๒ และเสด็จเดินจงกรม ณ รัตนจงกรมเจดีย์ ในสัปดาห์ที่ ๓ นั้น พระฉัพพรรณรังสี คือรัศมี ๖ ประการ ได้แก่
- นีล รัศมีที่มีสีเขียวเหมือนดอกอัญชัน
- ปีต รัศมีที่มีสีเหลืองเหมือนหรดาลทอง
- โลหิต รัศมีที่มีสีแดงเหมือนสีตะวันอ่อน
- โอทาต รัศมีที่มีสีขาวหรือสีเหมือนแผ่นเงิน
- มัญเชฐ รัศมีที่มีสีเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ หรือสีเหมือนหงสบาท คือ สีแดงปนเหลืองเหมือนสีของเท้าหงส์
- ประภัสสร รัศมีที่มีสีเลื่อมพรายเหมือนแก้วผนึก
พระฉัพพรรณรังสี คือรัศมี ๖ ประการก็ยังมิได้โอภาสออกจากพระวรกาย จนในสัปดาห์ที่ ๔ เมื่อเสด็จประทับนั่งขัดสมาธิทรงพิจารณาธรรมในพระวรกาย จนในสัปดาห์ที่ ๕ เมื่อเสด็จประทับนั่งขัดสมาธิทรงพิจารณาธรรมในเรือนแก้ว พระฉัพพรรณรังสีทั้ง ๖ ประการจึงโอภาสออกมาจากพระวรกายแล้วแล่นไปในทศทิศ คือ ทิศทั้ง ๑๐