ในสมัยเริ่มแรกนั้น พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้วิธีบวชให้กับพระสงฆ์สาวก ในแบบที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นใช้แบบ ติสรณคมนูปสัมปทา และเมื่อมีผู้มาบวชมากขึ้นจึงใช้แบบ ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา อย่างในปัจจุบัน
การบวชแบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา
คือ การอุปสมบทด้วยพระวาจาว่า “จงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวไว้ดีแล้ว เธอจงประพฤติธรรมนั้น” การบวชให้ด้วยพระองค์เอง สำหรับภิกษุสาวกในรุ่นแรก ๆ และหากผู้ใดได้ฟังธรรมสามารถสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก่อนบวช เช่น ท่านยสกุลบุตร หรือ พระยสะ พระพุทธองค์จะไม่กล่าวประโยคหลังที่ว่า “เพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ” เหตุเพราะผู้บวชได้ถึงที่สุดแห่งทุกข์โดยได้บรรลุธรรมก่อนบวชแล้ว
การบวชแบบ ติสรณคมนูปสัมปทา
คือ การอุปสมบทด้วยการถึงไตรสรณะ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตให้พระสาวกทำในยุคต้นพุทธกาล เพื่อบวชให้แก่ผู้ที่มีศรัทธา ซึ่งในขณะนั้นคณะสงฆ์ยังมีไม่มากนัก และเมื่อทรงอนุญาตให้มีการบวชแบบที่ ๓ การบวชแบบที่ ๒ นี้ก็เปลี่ยนมาใช้สำหรับบรรพชาให้สามเณร
การบวชแบบ ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา
คือ การอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรม หรือการบวชโดยการอนุญาตของหมู่สงฆ์ในที่ประชุมเป็นวีธีที่ทรงอนุญาตให้สงฆ์ทำเมื่อคณะสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่ขึ้นมา และใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หัวข้อ พระสงฆ์ :- การอุปสมบท